"Work hard when you are young. Save some for the rainy day."
Q: สวัสดีครับ ช่วยแนะนำตัวหน่อยครับผม
A: Siriraj 72 (1967), internship ที่ Greater Baltimore Medical Center, Baltimore, Maryland (1969-1970). OB-GYN residency : Barnes Hospital-Washington University Medical School, S. Louis, MO. (1970-1973). Gynecologic Oncology fellowship, same institution (1973-1975). Assistant Professor of OB-GYN, Washington University (1975-1978) Associate Professor of Clinical OB-GYN, same institution (1978-present) Private practice, St. Louis, MO (1978-2013). At the present, retired. > Q: การสอบ USMLE ในสมั้ยนู้นเป็นยังไงครับ แตกต่างจากสมัยนี้ไหม แล้วข้อมูลต่างๆ คงหายากเพราะไม่มี internet ข่วยแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ A: สมัยนั้นมีสงคราม Vietnam War อเมริกันกลัวคอมมิวนิสต์ North Vietnam ยกทัพไปรบเข้าข้าง South Vietnam หมออเมริกันโดนเกณท์ไปรบ ขาดแคลนหมอในประเทศ การสอบมา trained (ECFMG) ที่อเมริกาของหมอต่างชาติผ่านการ plot curve ที่ง่ายขึ้น ในชั้นประมาณ 120 คน ไปสอบที่ USIS ของสถานทูตอเมริกา ผ่านประมาณ 90 %. ข้อสอบไม่เหมือน USMLE เพราะเขาคัดมาพิเศษให้ง่ายขึ้น นับว่าเป็นการปล่อยผีโดยถูกต้องตามก.ม. American style!
> Q: ได้ยินว่าสมัยนั้น หมอไทยเหมาเครื่องบินมาเลยจริงหรอครับ A: Travel agents ฉลาดเพราะเห็นตัวอย่างปีก่อนๆ ไปกันเอง. เลยติดต่อรวบรวม 3 มหาวิทยาลัย ศิริราช จุฬาและเชียงใหม่ มาพร้อมกันลำเดียวกัน สนุกสนานเพราะเขาจัดให้เที่ยวตลอดเส้นทาง แวะฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฮาวาย ลอสเอนเจลลิส แล้วแยกย้ายไปรัฐต่างๆ ทำเอิกเกริกเกินไป จนชาวบ้านที่เสียภาษีให้เราเรียนโวยวาย รัฐบาลเริ่มวางแผนแก้ในตอนนั้น. > Q: ช่วยแชร์ประสบการณ์สนุกๆในตอนเทรนสักเรื่องสองเรื่องครับ A: แต่ละคนได้เข้าฝึกงานตามที่ต้องการในแขนงต่างๆ เพราะ competition น้อย ใครที่ทำงานร่วมกับคนไทยชอบเรามาก ได้ recommendation ดี ได้เข้า trained แม้กระทั่ง Surgeries ทุกแขนง ตอนที่เข้า Gyn. Oncology fellowship เป็นปีแรกที่เริ่มมี approved sub-specially board มี cases ผ่าตัดมาก ทำงานหนักไม่มีเวลา limited ในการอยู่เวร ได้เห็น cases มากกว่าเดี๋ยวนี้ งานสนุก เที่ยวสบาย เพราะเงินเดือนพอใช้ trained อยู่ 6 ปี มีความรู้สึกว่าคน American นับถือคนที่มีความสามารถ ไม่ว่าจะมาจากไหน ให้โอกาศเราอย่างเต็มที่ ฝีมือพวกเราไม่ด้อยกว่าใครในทุกๆแขนง.
> Q: อยากให้ช่วยเล่าเรื่องการก่อตั้ง TAPF (Thai-American Physician Foundation) A: เห็นชาติอื่นเขามีกองทุนสนับสนุนชาติเขา หมอไทยที่อยู่ในอเมริกาประสพความสำเร็จ มีหลักฐานกันทั่วหน้า. บรืจาคเงินที่หักภาษีได้เข้ามูลนิธิ ซึ่งตั้งในปี 2000 ถูกต้องตามกฎหมาย 501 (c) 3. เอาเฉพาะดอกผลไปใช้ในการศึกษาแพทย์ในเมืองไทย เงิน principal ต้องเก็บไว้ถาวร Board Members ตอนนี้มีรุ่น second generations เกิน 20 คน มูลนิธิมีจุดประสงค์ช่วย แพทย์จากเมืองไทยให้เข้า training ที่อเมริกามากขึ้น จัดประชุมติวทุกปีทั้งที่นี่และเมืองไทย.
> Q: จากประสบการณ์การทำงานในอเมริกามาหลายสิบปี อยากทราบว่า การทำงานในอเมริกามีข้อดีข้อเสียยังไงเทียบกับ การทำงานที่ไทย แล้วถ้าย้อนเวลาได้จะเลือก choice ที่แตกต่างไปไหมครับ เพราะอะไร
A: มีเวลาให้ดูคนไข้อย่างละเอียด และคนไข้กล้าซักหมอให้เข้าใจถี่ถ้วน ไม่ทราบว่าคนไข้ที่เมืองไทยยังกลัวถามหมออยู่หรือเปล่า ควร being assertive มากกว่านี้. ชีวิตครอบครัวหมอดีกว่าเมืองไทยมาก มีเวลาทำงานและพักผ่อนเพียงพอ รายได้ดีใช้ชีวิตมีความสุข การเลือก specialty ต้องชอบจริงๆ ไม่ใช่แต่เงินอย่างเดียว ตอนจบใหม่ๆ เป็น medical resident ที่ศิริราช ตอนที่ชอบมากที่สุดคือเวลาใช้มือผ่าตัด เลยเปลี่ยน specialty ได้ทัน.
เรื่อง malpractice ไม่ต้องกลัวถ้าเรามีความรู้แน่นและ bedside manners ดี การตั้งใจรักษาคนไข้ให้ได้ดี และรู้ limit ของตัวเอง เป็นวิธีป้องกันได้ดีที่สุด.
> Q: พอจะมีอะไรแนะนำน้องๆ จากเมืองไทยที่คิดจะเข้าแมช บ้างครับ
A: พยายามทำงาน research ให้มี experience ไม่ใช่แต่ดูคนไข้อย่างเดียว ภาษาอังกฤษต้องฝึกให้คล่อง อาจต้องมาใช้เวลาในอเมริกาสัก 1-2 ปีก่อนเข้า matched. เคย trained ที่ไทยมาก่อนก็ดีมีภาษีขึ้น ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเวลา ได้เรียนใหม่และมีเงินพอใช้.
> Q: อยากให้ช่วยแนะนำเรื่องการลงทุนในอเมริกาบ้างครับ
Work hard when you are young. Save some for the rainy day.
Never invest your Pension Fund in volatile stocks, blue ship stocks and high grade bonds are ok (mixed balance fund).
Vanguard Funds offer several low cost mutual funds for managed investment.
You are good at being a doctor only, don't be greedy อย่านึกว่าจะทำเงินจากเล่นstocks ได้ Warren Buffet ไม่ได้รวยจากการเล่น stocks. แกรวยจากซื้อบริษัททั้งอัน เห็นตัวอย่างหมอไทยหลายคน ต้องกลับไปทำงานใหม่.
ขอย้ำอีกครั้ง ขาดทุนเงินลงทุนใน Pension Fund หัก capital loss ไม่ได้ ต้องลงทุนแบบ conservative. ถ้ามีเงินส่วนตัวเหลือ อาจลองเล่น stock บางตัวถ้าคันไม้คันมืออยากเป็นเจ้าของ ขาดทุนขายหัก long term capital loss ได้. แต่ถ้า hit Jackpot เช่นหุ้น Apple ก็รวยไปเลย.
